มัจฉราชจริยาที่ ๑๐ ว่าด้วยจริยาวัตรของพระยาปลา [๓๐] อีกเรื่องหนึ่ง ในกาลเมื่อเราเป็นพระยาปลาอยู่ในสระใหญ่น้ำในสระ แห้งขอด เพราะแสงพระอาทิตย์ในฤดูร้อน ที่นั้นกา แร้ง นกกระสา นกตะกรุมและเหยี่ยว มาคอยจับปลากินทั้งกลางวันกลางคืน ใน กาลนั้น เราคิดอย่างนี้ว่า เรากับหมู่ญาติถูกบีบคั้น จะพึงเปลื้องหมู่ ญาติให้พ้นจากทุกข์ได้ด้วยอุบายอะไรหนอ เราคิดแล้ว ได้เห็น ความสัตย์อันเป็นอรรถเป็นธรรมว่า เป็นที่พึ่งของหมู่ญาติได้ เราตั้ง อยู่ในความสัตย์แล้ว จะเปลื้องความพินาศใหญ่ของหมู่ญาตินั้นได้ เรานึกถึงธรรมของสัตบุรุษ คิดถึงการไม่เบียดเบียนสัตว์ อันยั่งยืน เที่ยงแท้ในโลก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งได้ แล้วได้กระทำสัจจ กิริยาว่า ตั้งแต่เราระลึกตนได้ ตั้งแต่เรารู้ความมาจนถึงบัดนี้ เรา ไม่รู้สึกว่าแกล้งเบียดเบียนสัตว์แม้ตัวหนึ่งให้ได้รับความลำบากเลย ด้วยสัจจวาจานี้ ขอเมฆจงยังฝนให้ตกห่าใหญ่ แน่ะเมฆ ท่านจง เปล่งสายฟ้าคำรามให้ฝนตกจงทำขุมทรัพย์ของกาให้พินาศไป ท่านจง ยังกาให้เดือดร้อนด้วยความโศก จงปลดเปลื้องฝูงปลาจากความโศก พร้อมกับเมื่อเราทำสัจจกิริยา เมฆส่งเสียงสนั่นครั่นครื้น ยังฝนให้ ตกครู่เดียว ก็เต็มเปี่ยมทั้งที่ดอนและที่ลุ่ม ครั้นเราทำความเพียร อย่างสูงสุด อันเป็นความสัตย์อย่างประเสริฐเห็นปานนี้แล้ว อาศัย กำลังอานุภาพความสัตย์ จึงยังให้ฝนตกห่าใหญ่ผู้เสมอด้วยความ สัตย์ของเราไม่มี นี้เป็นสัจจบารมีของเราฉะนี้แล.จบมัจฉราชจริยาที่ ๑๐
หน้าเว็บ
- หน้าแรก
- มัชฌิมปัณณาสก์
- อุปริปัณณาสก์
- พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
- มหาวาร
- สฬายตน
- ขันธวาร
- นิทาน
- สคาถ
- ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
- มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
- ปาฏิก
- มหาวิภังค์
- สีลขันธ
- อินทริยภาวนา
- พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
- มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
- มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
- สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
- สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
- สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค
- สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
- สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
- ทสก-เอกาทสกนิบาต
- สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
- ปัญจก-ฉักกนิบาต
- จตุกกนิบาต
- เอก-ทุก-ติกนิบาต
- ทีฆนิกาย มหาวรรค
วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557
เรื่องมัจฉราชจริยา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น